เครื่องหนังไทยจะไปได้ไกลแค่ไหน?
โดย ThailandLeather
ThailandLeather
#1
เครื่องหนังไทยจะไปได้ไกลแค่ไหน? รบกวน Comment ให้หน่อยครับ

ที่เปิดกระทู้นี้มิได้มีเจตนาในทางลบ แต่เพื่อหาช่องทางสนับสนุน SME ด้านเครื่องหนังไทย

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก การที่ได้มีโอกาสเข้าไปเป็นที่ปรึกษาด้านการลดต้นทุนในการผลิต

ให้กับ SME เครื่องหนัง โดยเฉพาะกระเป๋า แต่ที่พบมากกว่าเรื่องต้นทุน คือ SME เหล่านี้

ส่วนใหญ่มีปัญหาการตลาดด้วย และต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างหนัก

จริงๆ SME เหล่านี้มีความเชี่ยวชาญ และฝีมือที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ

แต่ทำไม? ยังเป็นได้เพียงผู้รับจ้างผลิต (ส่วนใหญ่บอกเหนื่อย บางคนเริ่มท้อ )

ทำของถูกก็โดนของจีนตีตลาดสู้ไม่ได้ จะสร้าง Brand ก็ไม่ได้รับการยอมรับ

แล้วจะไปทางไหนดีล่ะ?

ส่วนภาพเหล่านี้เป็นตัวอย่างของ SME รายหนึ่งที่เน้นทำกระเป๋าสำหรับผู้หญิงมีอายุหน่อย(สนใจทำBrand) ปัจจุบันรับผลิตให้กับ FlyNow St.Jame Mawell และอื่นๆ








ขอบคุณ SBN ที่เอื้อให้เกิดสิ่งที่เป็นประโยชน์:D:p
ThailandLeather
#2
ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง...มีโอกาสได้สัมผัสความรู้สึกและชีวิตผู้ประกอบการ SME ด้านเครื่องหนัง
ที่ขณะนี้กำลังต่อสู้ดิ้นรนหาหนทางเพื่อประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอด

ขอขอบคุณ

silly-billy ,mukkie ,PREZZO ,noinoi5 ,leka ,Blinkboss ,moonaey ,

Ubbibb ,thebeautiquestore.com ,tonaor_ka ,sapphire

และอีกหลายท่านที่ติดตามและเป็นกำลังใจ ที่ได้ร่วมกันให้ข้อมูลและแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

ในการช่วยหาทางออกให้กับ SME ไทย สิ่งเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงและร่วมสร้างอุตสาหกรรมเครื่องหนังไทยรูปแบบใหม่

ให้เป็นความภูมิใจร่วมกัน

ขอบคุณบุคลากรของ SBN ที่ทุ่มเทเวลาชีวิตและเสียสละ จนเกิดพื้นที่ ที่เป็นของพวกเราชาวเมือง SBN
ThailandLeather
#3
........................
ThailandLeather
#4
............................
ThailandLeather
#5
...............
silly-billy
#6
[SIZE="3"]ดูแล้วก็สวยดีน่ะค่ะ เหมาะกับคุณแม่มากค่ะ
แตถ้าอยากสร้างแบรนด์ก็ต้องหาจุดเด่นของสินค้าแล้วความแตกต่างจากแบรนด์อื่น
เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายและดีไซน์ที่เป็นเอกลักษ์
เอาแบบว่าเห็นปุ๊บ เฮ้อนี้กระเป๋าของ.......นี้หน่า สวยจัง!! อะไรประมาณนั้นค่ะ
ที่สำคัญ คุณภาพค่ะ ทนทานใช้ได้นาน และการตัดเย็บ
เพิ่มเติมค่ะ น่าจะมีโลโก้แบรนด์สวยๆด้วยน่าจะดี


เอาเป็นว่าลองคิดดูน่ะค่ะ โชคดีค่ะ
mukkie
#7
ตราบใดที่ค่านิยมเรื่องแบรนด์เนมยังคงมีอยู่ ก็ยังคงยากค่ะ สำหรับเครื่องหนังไทย

ต้องหาเอกลักษณ์ของแบรนด์ตัวเองให้ได้ค่ะ แล้วก็ต้องถูกตาต้องใจกลุ่มเป้าหมายด้วย..........

ทำให้มุกคิดไปถึงแบรนด์ที่ชื่อ jim thomson ที่ใช้เอกลักษณ์ของความเป็นไหมไทย สร้างแบรนด์จนดังไปทั่วโลก

แต่ก็คุณฝรั่งอีกนั่นแหละค่ะ ที่เห็นความงามของของไทย ๆ แล้วเอามาทำจนติดตลาดโลก แบบมีสไตล์อ่ะค่ะ

ในขณะที่คนไทย สื่อความเป็นผ้าไหม ผ่านการตัดเย็บเสื้อผ้าเสียเป็นส่วนใหญ่ แล้วก็ทำให้ลุคของการใช้ผ้าไหมดูมีอายุ

ยกตัวอย่างเรื่องผ้าไหมให้ฟัง เผื่อจะได้ไอเดียในการทำเครื่องหนังไทยให้ดูน่าใช้มากขึ้นค่ะ

ไม่รู้จะช่วยได้บ้างรึเปล่านะคะ
PREZZO
#8
คงจะยากสำหรับคนไทย ผู้ซึ่งไม่เคยนิยมอะไรที่เป็นแบรนด์ไทยแท้ๆ

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ อัตราการซื้อสินค้าแบรนด์นอกยังคงสูงกว่าแบรนด์ไทยมาก
ด้วยสารพัดเหตุผลที่มาอ้าง ไม่ว่าจะเป็นความทนทาน หรือการยอมรับในสังคม
ซื้อมาก็เพราะอยากจะให้คนอื่นรู้ว่าฉันใช้แบรนด์เนมนะจ๊ะ ไม่ใช่ซื้อเพราะชอบในตัวสินค้าจริงๆ

ตัวอย่างเช่น กระเป๋า Kwanpen คุณภาพดีขนาดไหน ไม่ต้องพูดถึง แต่จะหาคนไทยซื้อได้สักใบหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ

หรือไม่ต้องไปดูที่ไหนไกล แบรนด์ไทยต่อให้คุณภาพดีแค่ไหน สภาพ 99%
เวลาเอามาเซลล์มือสองถูกแสนถูก คนในบอร์ดเราก็ให้ความสนใจน้อยกว่าแบรนด์เนมสภาพเยินๆ ราคาแพง

ต้องยอมรับว่าเราซื้อเพราะแบรนด์มากกว่า คุณภาพสินค้าจริงๆ
noinoi5
#9
1.กระเป๋าถ้าดูจากในรูป...คุณภาพการตัดเย็บสวยและดูดี

2.แต่ถ้าให้พูดถึงแบบ ยังไม่สามารถเจาะตลาดกลุ่มของคนไทยได้..(ในส่วนของกลุ่มทำงานอายุระหว่าง 20 - 40 ปี)

3.ลองหาจุดเด่นของสินค้าตัวเอง..+ กับ ผลิตออกมาเพื่อตอบโจทย์ของความต้องการตามตลาดของคนไทย..(อาศัยการดีไซน์ที่เหมาะสมและทันสมัย)

4.ลองไปเดินดูตาม shop อย่างแบรนด์ไทย ดังๆ ทำออกมาในราคาที่คนไทยสามารถหยิบจับได้...

เอาใจช่วยและเป็นกำลังใจให้นะคะ
leka
#10
รูปที่เอามาให้ดูนี่ คือของขึ้นห้างเลยอ่าค่ะ แต่ดูไม่ออก แยกแยะ ไม่ได้ ว่าเป็นยี่ห้ออะไร น่าสนใจกว่ายี้ห้ออื่นตรง ถ้าเทียบกับเสื้อผ้า คือแบบว่าเห็นปุ๊ปรู้เลย ว่า สไตล์นี้ยี่ห้ออะไรอ่าค่ะ เราต้องหาความเป็นตัวเองให้เจอ ต้องมีดีไซเนอร์ดีดีอ่าค่ะ
Blinkboss
#11
ความเห็นเราอาจจะ แรงๆนะคะ

เราว่าจริงๆแล้วไทยเหมาะที่จะรับจ้างผลิตค่ะ เพราะฝีมือดี ปราณีต แต่การที่จะทำแบรนด์ของตัวเอง
เพื่อให้มีชื่อเสียง และเป็นการเพิ่ม มูลค่าสินค้านั้นค่อนข้างยาก

ด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งการตลาด ระบบงาน และอื่นๆ
เราเคยทำงานกับบริษัททั้งไทย และ ไทยที่ under ต่างประเทศ

ทำให้รู้ว่าการตลาดสำคัญมากไม่ใช่แค่คุณภาพเท่านั้น การรักษาภาพลักษณ์ และคุณภาพเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

เหตุใหญ่ๆที่ทำให้บริษัทบางที่ยังรับจ้างผลิตอย่างเดียวเพราะ เก่งผลิต ไม่เก่งการตลาด
บางที่พอทำสินค้าได้ และพอออเดอร์เยอะ ก็ควบคุมการผลิตไม่ได้ ดีไม่เหมือนเก่า ควบคุม time line ส่งสินค้าไม่ทัน ฯลฯ

การดีไซน์แบบสินค้าก็สำคัญ หากไม่มีแบบใหม่ดีไซน์ที่สวยทันสมัยออกมาก็ขายลำบาก

คล้ายๆกับการผลิตรถยนต์ในไทยนั่นแหล่ะค่ะ ทำไมแบรนด์ไทยถึงไม่ดัง
เหตุเหมือนกันถ้าไทยทำตามเงื่อนไขของบริษัทนั้นๆ งานจะดี มีคุณภาพ ถ้าทำเองเมื่อไร ก็ไม่ค่อยจะรอดกัน

จริงๆแล้วเราว่ารับจ้างดีแล้ว ไม่ปวดหัวหลายเรื่อง+ ชื่อเสียงของเราอยู่ที่ผลงาน
เหมือนๆกับที่ต่างประเทศจะชอบที่ made in Thailand ดีกว่า Made in China
ยังไงยังงั้น
moonaey
#12
ชอบใบแรกมากค่ะ ดูแล้วไม่แก่ไป ขายเท่าไรอ่ะค่ะ (แอบนอกเรื่องเล็กน้อย)
Ubbibb
#13
คิดว่าเป็นเพราะ
1. design และ style
2. การควบคุมคุณภาพ

ยกตัวอย่างนะคะ อย่างเราเองโดยปรกติรักชอบเครื่องหนังนิ่มๆประมาณ Chloe, Balenciaga,Mulberry, Francesco Biasia, Miu Miu มากๆ
แต่พอเห็นแบรนด์ไทยก็ไม่ได้คิดรังเกียจรังงอนอะไรนะคะ ชอบเดินเข้าไปดูและยินดีซื้อถึงแม้จะราคาเป็นหมื่น
เพราะไม่ได้ติดยี่ห้อ เท่ากับ สี วัสดุ-หนัง และ แบบ

- สีของเครื่องหนังไทย มักไม่ค่อยถูกใจเราอะค่ะ อย่างทุกปีที่บาลองออก collection ใหม่ๆ ก้อจะมีสีสวยกรี๊ด ทำไมเครื่องหนังไทยไม่มีแบบนั้นบ้าง
- วัสดุ ชอบหนังนิ่มค่ะ ใครทำหนังนิ่ม ก็ได้ใจไป Viera by Ragazze ก้อเป็นตัวอย่างแบรนด์ที่เราชอบหนังเค้า
- แบบ อันเนี้ยสิยาก หาถูกใจยากมากๆ (style ที่เราชอบก้อไม่ซับซ้อนไรเล้ย First, Twiggy, City, Parttime, Work อะไรเงี้ยค่ะ 555) Viera ยังไม่ผ่านนะคะ แต่ล่าสุดเพิ่งไปเจอแบรนด์ใหม่ชื่อ Miah เห็นวางที่ Zen ทั้งแบบทั้งสีทั้งหนังน่ารักถูกใจ ใบเล็กๆใบละสี่ห้าพัน แต่ยังไม่ได้ซื้อ เพราะตอนนั้นยังไม่ีมีคูปอง :P แต่ก้อจะกลับไปซื้อค่ะ

อีกเรื่อง เรื่องการควบคุมคุณภาพน่ะค่ะ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ผลิตมักละเลยเรื่องนี้ การทำแบรนด์ให้โดดเด้งเด่นดังในใจลูกค้าได้นาน จะต้องมองระยะยาวด้วยนะคะ
คุณภาพต้องดีสม่ำเสมอ นั่นหมายถึงการ QC กันอย่างจริงจัง
ไม่ใช่แค่ 2-3 collection ที่ออกมา
แต่หมายรวมถึง สองสามปี หรือสิบปีผ่านไป คุณภาพของคุณยังต้องเนี้ยบบบ เหมือนเดิม
แสดงถึงความตั้งใจ ใส่ใจจริงที่จะสร้างแบรนด์นั้นให้เติบโตอย่างยั่งยืน

อย่างเราเอง ไม่ได้เป็นแฟน LV มีบ้างไม่กี่ใบ แต่พอได้ยินว่าเดี๋ยวนี้ QC เค้าห่วยลง เพราะขายดีจัด
จริงรึเปล่าไม่รู้ แต่เราก้อว่าจะเลิกซื้อแล้วค่ะ
เรื่องนี้สำคัญนะคะ คุณสร้าง reputation ให้ลูกค้า Trust แล้วต้องรักษามันไว้ให้ได้ด้วย

สรุปแล้วยังมีลูกค้า ที่พร้อมจะเปิดใจ และสนับสนุนของคนไทยทำ (ไม่นับคนที่ติดแบรนด์ ติดของนอก ซึ่งนั่นก็เป็นความพอใจส่วนบุคคล ไม่ว่ากัน )
นั่นหมายถึงของต้องถูกใจด้วย
และรักษาคุณภาพได้ด้วย
เครื่องหนังไทยจะไปได้ไกล ถ้าสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ค่ะ ^^
thebeautiquestore.com
#14
ขอ comment ในเชิง designนะคะ เรื่องการตลาด pscychological aspects ของไม่พูดถึง

อยากจะบอกว่าศักยภาพในการผลิตดีมากนะคะ

งานที่โชวตามรูปอธิบายได้สั้นๆว่า ไม่มี "design" ไม่มี เอกลักษณ์
ก็ึคือไม่ต่างอะไรกับย่ามใส่ของค่ะ

สินค้าพวก brand จะมี value added นะคะ เช่น design เด่นที่เป็น signature เช่น balenciaga

สินค้าที่เราใช้รอบๆเป็นตัวบอกคนอื่นใน first impression ว่าคนนี้เป็นคนยังงัย
คนถือหลุย คนถือบาลอง คนถือflynow คนถือalexanderwang คนถือgreyhound < มันก็บ่งบอกไม่ว่าจะเป็นสถาณะทางการเงิน ความชอบ ETC....


พูดจริง "งอบ" + "design" เข้าไป จะบอกว่าเอาไปเดิน catwalk ยังได้เลยนะคะ

[ATTACH=CONFIG]41474[/ATTACH] [SIZE=7]+[ATTACH=CONFIG]41475[/ATTACH]= ??? ทำไมไม่มีใครทำ?
tonaor_ka
#15
น่าจะพัฒนาทางด้านรูปแบบให้ดูทันสมัยมากกว่านี้ค่ะ เพราะแบบที่ดูๆแล้วบางอันเหมาะกับผู้ใหญ่มากไป น่าจะทำให้ใช้ได้ทั้งผู้ใหญ่และวัยรุ่นนะค่ะ
(ลองไปเดิน สยาม หรือที่วัยรุ่นเดินกันเยอะๆนะค่ะ เพราะนอกจากเราจะได้ดูว่าวัยรุ่นเค้าใช้กระเป๋าแบบไหนเรายังได้เห็นว่าเค้าแต่งตัวกันยังไง จะได้ออกแบบกระเป๋าได้เข้ากับเสื้อผ้าที่เค้าใส่ได้ด้วยนะค่ะ)
ชอบการตัดเย็บดูดีมากคะ
sapphire
#16
เราเชื่อว่าคนไทย ทำคุณภาพได้ยอดเยี่ยมค่ะ แต่อย่างที่ทุกคนว่าเรื่อง design ต้องมี concept มีเอกลักษณ์ มีบุคลิกของ brand อีกเรื่องคือการตลาด เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า chanel, balen, LV, Gucci, Hermes, etc. มีมานานเป็นหลัก 100 กว่าปีนะคะ กว่าจะมีคนรู้จักถึงวันนี้มันใช้เวลาสะสม ถ้าคุณคิดว่า คุณอยากทำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักภายในระยะเวลาไม่กี่ปี แล้วอยากให้คนรู้จักขายได้ราคาแบบ brand ข้างต้นก้อคิดผิดค่ะ

คุณอาจจะเริ่มที่ราคาไม่แพงมาก แล้วมี design ทำการตลาดเจาะกลุ่มแบบ niche market แต่เป็น niche market ที่ทรงอิทธิพลอย่างเช่นพวก hi so พวกดาราทั้งหลาย (ตัวอย่างเช่น Thakoon ถูกใจคนมีอิทธิพล เช่น Anna Winstour, Michel Obama ซึ่งทรงอิทธิพลมากมายทั้งทางด้าน fashion และผู้นำ) ถ้าของเราเป็นที่นิยมมากขึ้น ก้อค่อย ๆ ขึ้นราคา ราคาจะถูกปรับไปตาม supply demand ค่ะ อย่างของ brand name แต่ละ brand ราคาก้อสูงขึ้นทุก ๆ ปี

เราเคยฟังสัมภาษณ์จากคุณตัน Oishi ว่า มนุษย์เหมือนปลา ถ้ามีตัวนึงว่ายไปทางทิศนึง อีกหลาย ๆ ตัวก้อจะตามเป็นฝูง พอเปลี่ยนทิศก้อเปลี่ยนตาม ตัวอย่างคนใช้ bb ค่ะ พอสร้าง network คนก้อเริ่มใช้ เริ่มแรกเป็น corporate หลัง ๆ พอพวก celeb ใช้ คนก้อใช้บ้าง ในไทยธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ก้ออย่างเช่น iberry ที่เริ่มต้นร้านเล็ก ๆ แต่มี concept สร้าง design ทำรสชาติไอศครีมที่มีเอกลักษณ์คนไทย ที่ต่างชาติลอกเลียนแบบไม่ได้ นี่สำคัญค่ะ แล้วก้อถูกอกถูกใจกับคนกลุ่มนึงก่อน แล้วมันก้อเปลี่ยน lifestyle ของคนอื่น ๆ มาตามลำดับ

การทำแบรนด์ ถ้าทำถูกทาง ใช่ ตรงใจ มันก้อดังได้ไม่ยาก แต่ว่า ทำอะไรก้อตามมันก้อมีความเสี่ยงนะคะ เราเคยฟังสัมภาษณ์ผู้บริหาร pranda jewelry ที่เค้าเป็น OEM มาก่อน แล้วก้อเริ่มทำแบรนด์ของตัวเอง แบรนด์แรกคือ Prima Gold ซึ่งเค้าบอกว่า ต้องใช้เงินทุนมหาศาลทำ brand ให้มีคนรู้จัก ซึ่งทำให้ PrimaGold ขาดทุนไป 6 ปี ปีที่ 7 ถึงเริ่มมีกำไร นั่นก้อเป็นอีกตัวอย่างค่ะ อยากให้คิด ๆ ว่า limited budget อย่างเราควรใช้อย่างไร เพราะขนาดบริษัทที่เงินทุนหนา ๆ ยังใช้เวลาถึง 7 ปี ถึงจะมีกำไร คุณมีสายป่านยาวขนาดนั้นหรือไม่

มันก้อต้องคิดค่ะ
1 ถ้าทำ oem ก้อไม่ต้องลงทุนอะไรมาก ทำตาม order แล้วได้ส่วนต่างจากสินค้า อาจจะ 10-30%
2 ถ้ามีร้านหรือ shop เป็นของตัวเอง ก้อต้องลงทุนมากขึ้น มี stock ก้อต้องคิด 100-300% ขึ้นอยู่กับว่าขายที่ไหน ค่าเช่า margin เท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายคนขายเท่าไหร่ เกิดขายไม่ออกก้อต้อง sale หรือขาย stock เก่า ๆ ขาดทุน ราคาเริ่มต้นเลยต้องสูงเพื่อชดเชยกัน
3 ส่วนถ้าต้องการทำ brand ราคาต้นทุนของตัวสินค้าจริง ๆ ก้ออาจจะแค่ 10-15% ของราคาขาย แต่ก้อต้องมีค่าโฆษณามากมาย ค่าจัด event ทำ promotion ค่าใช้จ่ายของร้าน stock และอื่น ๆ ตามที่กล่าวไว้แล้ว ซึ่งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นมีมากเป็น 80% ของราคาต้นทุนสินค้าค่ะ หรือแล้วแต่ว่าจะบริหารจัดการดีแค่ไหน ถ้าเพิ่งเริ่มเปิดตัวและอยากให้คนรู้จักก้อทุ่มงบหน่อยค่ะ ถ้าคนรู้จักแล้วก้อแค่ maintain ก้อไม่มากเท่าไหร่

ก้อต้อง weight น้ำหนักดูค่ะ

หวังว่าคงช่วยได้บ้างนะคะ เอาใจช่วยคนไทยค่ะ เพราะอยากเห็นคนไทย go inter อย่าง Thakoon, sretsis, etc. ค่ะ
shopstick
#17
ก็อย่าที่หลายๆคนว่านั้นละคะ

มันต้องอาศัยแนวคิดเข้าสู้จริงๆ

แต่ถ้าของเราดีจริง ก็ไม่ต้องกลัวหรอก เพราะยังไงก็ขายได้แน่นอน
kkiifftt
#18
เมืองไทยมีวัตถุดิบที่ดีหลายอย่างอยู่แล้ว ถ้าเพิ่มความประณีต + ความคิดสร้างสรรค์ลงไปให้มากกว่านี้ รับรองว่าไม่แพ้แบรนด์ดังๆของต่างชาติอย่างแน่นอนค่ะ
ThailandLeather
#19


สำหรับเพื่อนๆ พี่ๆ ผู้มีใจรักและเห็นคุณค่าแท้ของกระเป๋า Brandname หรือน้องๆ นิสิต นักศึกษา

หากเดินไปเจอกระเป๋า Brand ใหม่ ที่พอเป็นที่รู้จัก เผอิญเห็นแล้วถูกใจ

โอกาสที่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ จะตัดสินใจซื้อ มากน้อยขนาดไหนเหรอครับ?

และทำไมจึงตัดสินใจหรือคิดจะซื้อกระเป๋าใบนั้นล่ะ?

ขอบคุณทุกความคิดเห็นดีดีครับ


Siambrandname Webmaster
#20
ขอบคุณ เพื่อนสมาชิก ที่มาแบ่งปันความรู้ และร่วมแสดงความคิดเห็น

และขออนุญาตใช้พื้นที่นี้ แนะนำเครื่องมือตัวใหม่ของชุมชนเราด้วยเลยนะครับ

เพื่อนสมาชิกที่มาแบ่งปันความรู้ สามารถจัดเก็บความรู้ที่ตนให้ไว้โดยการกดแค่คลิ๊กเดียว ก็จัดเก็บความรู้ที่แบ่งปันนี้ ไว้ในบล๊อกของตนเองได้ง่ายๆด้วยครับ
เพื่อประโยชน์ในการ บริหารจัดการความรู้ของตนเองได้ด้วยครับ รายละเอียดการจัดเก็บ ความรู้ของตนที่แบ่งปันในกระทู้ ลงบล๊อก อ่านได้ในกระทู้นี้ครับ

ชวนเพื่อนสมาชิก SBN มาใช้บล๊อก & ใหม่!!! แนะนำวิธีคลิกเก็บกระทู้ของตัวเองลงบล็อคได้แบบอัตโนมัติ แค่คลิกเดียว!!

เพื่อนสมาชิกทุกคน สามารถจัดเก็บความรู้ของตนเองด้วยวิธีการดังกล่าวได้เช่นกันครับ

ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกคนที่แบ่งปันความรู้

ขอบคุณครับ
BabyPanpan
#21
ขอว่าตามนี้เลยนะคะ
1. Design Signature --- คือมันไม่มีความเด่นอ่ะค่ะ ไม่มีเรื่องราวบอกว่าเลิศยังไง ดียังไง เก่งยังไง ทำไมเราควรเสียตังค์มากๆซื้อ ขอให้ลองสังเกตนะคะ ว่าพวกแบรนด์ทั้งหลายน่ะ เค้ามีสิ่งแบบนี้ทั้งนั้น
2. ความพยายาม --- คืออยากจะบอกว่าแต่ละแบรนด์ที่ครองตลาดอยู่อ่ะ อายุแบรนด์ไม่ได้น้อยกันซักอันเลยนะคะ คือเค้าผ่านมานานมากกว่าจะกลายเป็นอะไรแบบที่เราเห็นทุกวันนี้ ไทยเราทำมาไม่กี่ปี จะมาร้องโอดโอยว่าทำไมไม่ซื้อของไทยมันก็ดูประหลาดไปนิดป่ะคะ?
3. โครงสร้างที่ส่งเสริม --- คือคนทีจะดีไซน์ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อ่ะ มันไม่เกิดไงคะ คือมีฝีมือมากแต่ไม่มีคนมาจ้างให้ออกแบบและผลิต มันก็ไม่มีวันพัฒนาป่ะคะ? เราว่ามันต้องเริ่มจากการที่มีพวกหนึ่ง (หลายแบรนด์) พัฒนาตัวเองโดยการส่งเสริมของรัฐ (เช่น เงินทุน การส่งเสริมโปรโมต การสร้างภาพลักษณ์ของไทย) คือเราเห็นว่าเค้าทำกันแป๊บเดียวแล้วก็หายหัวอ่ะค่ะ แล้วเราจะเดินไปไหนได้อ่ะคะ? อยากเป็นอะไร อยากได้อะไร ก็ต้องทำตัวเหมือนอยากได้สิคะ ไม่ใช่มาร้องว่าทำไมไม่ได้ มันตลกอ่ะ
sushii17
#22
สู้ๆเค้านะคะ ทุกแบรนด์ก็ต้องฝ่าฝั่นอุปสรรค ก่อนจะยิ่งใหญ่ได้ทั้งนั้น

อยากเห็นแบรนด์ไทยดังระดับโลกนะคะ
ดูกระทู้ทั้งหมดในชุมชน จาก  Downtown ดูกระทู้ในหมวด ดูกระทู้ในหมวดย่อย
กระทู้แนะนำจากการคัดเลือกอัตโนมัติ
1
2
3