"ขอนำข้อความส่วนตัว บางส่วน ที่ สามีของคุณแอ๊นท์ เขียนตามคำสั่งเสียของคุณแอ๊นท์ถึงการตัดสินใจของตนเองเกียวกับ ชุมชน Siambrandname มาลงเก็บไว้ในชุมชนแห่งนี้ด้วยครับ
ซึ่ง ขอแจ้งเพื่อนสมาชิกในชุมชนว่า "รุ่นน้อง ที่มาขอรับโอกาส" นั้น คือ ตัวผมเอง
ขอโทษ ที่โกหก หลอกลวง สามีของคุณแอนท์ และ คุณแอนท์ ว่าผมสามารถรับผิดชอบได้ จึงมาขอโอกาส แต่แท้จริงแล้ว ผมไม่สามารถรับผิดชอบได้
และ ขอโทษ เพื่อนสมาชิกในชุมชนทุกคน ที่ไม่สามารถ รับผิดชอบงานในชุมชนได้ ตามสัญญา ที่ให้ไว้ ตั้งแต่ได้รับโอกาส ครับ
พรอนันต์ อุดมถาวรสุข
ทีมงาน SBN
ปล. ต้นฉบับบทความ จาก ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid0Qxs4GL1A9h7bZxHsJyAPWEzUtdYNNJ1h59m6Q55i93mi89hBRZff4gYPti1hfnoPl&id=100000638466566
เมื่อเกือบ 20 ปีก่อนในสมัยนั้นการซื้อขายสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมยังอยู่ในวงที่จำกัด
น้องแอ๊นท์ภรรยาของผมเอง จึงได้เปิดเว็บเพื่อขายสินค้าที่ใช้แล้วของตนเองขึ้นมาและได้เปิดเว็บบอร์ดขึ้นในเว็บขายสินค้าของตนนั้น ชื่อว่า mylvshop ขึ้นมา
และได้พบว่าในการซื้อขายสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมสมัยนั้น มีคนโดนโกงจากการซื้อขายสินค้าของปลอมกันเยอะมาก น้องแอ๊นท์จึงได้คิดขึ้นว่า ไม่อยากเห็นคนเสียใจจากการซื้อขายสินค้า ที่เกิดจากความชอบมากมายขนาดนั้น ความเสียใจจากการอยากได้ของที่ตนเองชอบตนเองรัก เก็บเงินซื้อแต่โดนหลอกให้ซื้อของปลอมนั้น การโดนหลอกลวงเช่นนั้น เจ็บปวดทรมาน
น้องแอ๊นท์ เข้าใจความทุกข์ จากการผิดหวัง เช่นนั้นจึง ตัดสินใจ เขียนวิธีดูสินค้า จริงปลอมในรุ่นที่ตนชำนาญ ลงในเว็บบอร์ดร้านค้าของตน ในขณะที่น้องแอ๊นท์ยังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาเอกที่ประเทศอังกฤษ ในปี พ.ศ. 2548 นั้น
และ น้องแอ๊นท์ยอมรับในข้อจำกัดของตนเองว่า ไม่สามารถให้ความรู้ในสินค้าทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น ทุกชนิดไหว จึงเลือกหนทางที่จะทำงานให้เกิดชุมชน ของคนที่อยากแบ่งปันความรู้เพราะเห็นในทุกข์เหล่านั้น ที่โดนหลอกให้ซื้อของที่ตน รัก หลงใหล ชอบ เป็นของปลอม และไม่อยากเห็นคนอื่นต้องทุกข์เช่นนั้น มาแบ่งปันความรู้และรับผิดชอบในการแบ่งปั่นช่วยเหลือไม่ต้องให้คนที่ชอบในสิ่งที่เหมือนๆกันในยุคสมัยนั้นต้องทุกข์ จากการโดนฉ้อโกงหรือมิจฉาชีพขายของปลอม ดังอุดมคติเช่นนั้น จึงเกิดห้องซื้อขายที่พยายามให้มีการช่วยตรวจสอบจนเป็นที่มาให้ น้องแอ๊นท์ตัดสินใจเปิดเว็บไซด์ชุมชน siambrandname ขึ้นมา
และ เปิดห้องตามอุดมคติเช่นนั้น ที่น้องแอ๊นท์เลือกรับผิดชอบเช่นห้อง Catch fake ที่ใช้ตรวจสอบสินค้าที่ซื้อขาย หรือห้องที่ให้ คนที่มีความรู้พร้อมแบ่งปันมาตั้งกระทู้สอนวิธีดูสินค้ายี่ห้อ รุ่นต่างๆขึ้นมา การเติบโตของชุมชนแห่งนี้ เติบโตอย่างรวดเร็วสูงมากในช่วงเวลานั้น จนมีการประเมินมูลค่าหลายล้านดอลล่าโดยเว็บไซด์ต่างประเทศและมีการติดต่อจากแบรนด์เนมชั้นนำเพื่อขอโฆษณา ตลอดจนมีการติดต่อเพื่อขอซื้อเว็บไซด์ น้องแอ๊นท์ซึ่งไม่ได้ มีเจตนาที่จะหารายได้ จากเว็บไซด์แห่งนี้
และจุดเริ่มต้นมาจากชวนทุกคนที่เห็นในทุกข์เหล่านั้นมาแบ่งปัน น้องแอ๊นท์จึงเปลี่ยนแปลงอุดมคตินั้นของตนเองเพื่อประโยชน์ในทางรายได้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้น น้องแอ๊นท์ก็ผิดต่อการรับผิดชอบต่อการไม่หลอกลวง
น้องแอ๊นท์ไม่อยากผิดศิลโกหก หลอกลวงเช่นเดียวกันกับ เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ทึ่เป็นเหตุให้ต้องเปิดชุมชนแห่งนี้ขึ้นมา บาปกรรมเดียวกันนั้น น้องแอ๊นท์ไม่สามารถทำได้ จึงไม่ได้หารายได้ใดใด จากความชื่นชอบ ชื่นชมในสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม การทำชุมชนแห่งนี้ จึงไม่ได้ มีรายได้ ต้นทุนที่เกิดขึ้นจึงเกิดจากการช่วยเหลือกัน และพยายามไม่ให้มีค่าใช้จ่ายที่น้องแอ๊นท์ต้องรับผิดชอบ เพื่อให้สามารถคงรักษาอุดมคติดังเดิมของชุมชนไว้ว่า ไม่ได้คิดจะเอามาหารายได้ จากการแบ่งปันของคนที่เห็นในทุกข์เดียวกัน แม้แต่การออกแบบโลโก้ สัญลักษณ์ของชุมชนนั้น ก็ได้ รับการช่วยเหลือในการออกแบบจากน้องชายของน้องแอ๊นท์เอง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด
ส่วนสำคัญต้นทุนการแบ่งปันความรู้ ได้จากความช่วยเหลือของสมาชิกในชุมชม เกิดจาก คนที่เห็นในทุกข์แบบเดียวกันและไม่อยากให้เกิดทุกข์นั้น แก่ทั้งตนและคนอื่นได้มาแบ่งปันกัน ส่วนค่าใช้จ่ายในการดูแลระบบคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตที่มีรายจ่ายตั้งต้นและต่อเดือนสูงในเวลานั้น และต่อมา ได้จากการขอรับโอกาสของรุ่นน้องที่ร่ำเรียนมาทางวิศวกรรม เพื่อขอศึกษาการเกิดขึ้นตามกฏธรรมชาติของชุมชน
ในช่วงระยะเวลาที่เริ่มต้นให้ความรู้ในชุมชนนั้น น้องแอ๊นท์ไม่ได้ ประเมินว่า กุศลและอานิสงค์ ของการทำชุมชนนี้ จะส่งผลกระทบขนาดไหน ซึ่งในแง่ผลประโยชน์นั้น ชุมชนแห่งนี้ ได้ก่อให้เกิดตลาดซื้อขายสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมขึ้นมาและต่อมาขนาดตลาดใหญ่ขึ้นพอที่จะมีการลงทุนของบริษัทข้ามชาติในวงจรเศรษฐกิจดังกล่าวมาดำเนินกิจการในประเทศไทย และร้านค้า แม่ค้าแลกเปลี่ยนซื้อขาย ทั้งขนาด ใหญ่ กลาง เล็ก ที่เกิดขึ้น ของคนไทยเอง ก็เกิดขึ้นมากมาย หลายร้าน
จนมาถึงปัจจุบันนี้ หรือการเข้ามาของสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมอีกหลายแบรนด์และตลอดถึงการเกิดขึ้นของสินค้าแฟชั่นแบรนด์ไทย น้องแอ๊นท์ยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ก่อให้เกิดวงจรเศรษฐกิจ ขึ้นได้จริง แม้ว่า ในเวลานั้น หลังจากตั้งชุมชน Siambrandname ไปไม่กี่ปี น้องแอ๊นท์เริ่มหาข้อมูลที่มาของสินค้ามากขึ้น จึงเจอว่าสินค้าเหล่านี้ ไม่ได้ใช้ by product จากอุตสาหกรรมอาหารตามที่ตนเข้าใจมาในวัยเด็ก แต่เป็นการเลี้ยงขึ้นมาใหม่เพื่อนำชิ้นส่วนร่างกายของน้องสัตว์ สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นมาทำสินค้า ซึ่งขัดกับตัวรู้สึกที่น้องแอ๊นท์เห็นยอมรับในคุณค่าชีวิตเหล่านั้นมากกว่าจะโดนตั้งใจเลี้ยงมาเพื่อฆ่าทำสินค้า
ในช่วงเวลาดังกล่าว น้องแอ๊นท์ได้พยายามใช้ชีวิตในวิถี วีแก้น มาหลายครั้งแต่โครงสร้างร่างกายไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิตเช่นนั้น จากผลกระทบของโรค ME/CFS ที่น้องแอ๊นท์เป็นมาอย่างยาวนาน และ เป็นเหตุให้ชีวิตต้องเสียไป ตามรายละเอียดในกระทู้นี้
“ร่วมแสดงความอาลัย ต่อ คุณแอ๊นท์ ผู้ก่อตั้ง Siambrandname.com https://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=3910615 ”
ความรู้สึกผิดของน้องแอ๊นท์ที่มารู้ที่หลังว่า อุตสาหกรรมสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม ไม่ได้ใช้ผลิตภัณท์จากสัตว์ เฉพาะที่เป็น by product จากอุตสาหกรรมอาหาร
ทำให้น้องแอ๊นท์ตัดสินใจเลิกใช้ผลิตภัณท์จากสัตว์ทุกชนิด และขายสินค้าแฟชั่นที่เคยมีไว้ของตนเองออกไป แม้ว่า น้องแอ๊นท์เอง จะเป็นคนให้ตรรกะไว้ ในสมัยตั้งชุมชนใหม่ๆ ตามข้อเท็จจริงของตนเอง ที่ขณะนั้น ที่กำลังศึกษาระดับปริญญาเอกที่ประเทศอังกฤษ ว่า “สินค้าแฟชั่นสำหรับแอ๊นท์คือการลงทุน” เพราะน้องแอ๊นท์ใช้สินค้าแฟชั่น เป็นการลงทุน ที่ได้กำไรสูงกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าหรือนาฬิกา แม้ว่า เหตุผลดังกล่าว เป็น ตรรกะที่น้องแอ๊นท์ใช้สำหรับตนเองจริงๆ ในการตัดสินใจ ไม่ให้ ตนเองลุ่มหลง ไปกับกระแสแฟชั่นของสินค้าจนหาสาระที่แท้จริง ในการตัดสินใจของตนเองไม่ได้นอกจากความพึงพอใจ ทางอารมณ์ก็ตาม
แต่เหตุผลตรรกะนั้นที่จริง สำหรับน้องแอ๊นท์ น้องแอ๊นท์พบว่าในภายหลังกลับเป็นข้ออ้างในบางคน และในเด็กๆอีกหลายคนที่ประเมินอารมณ์ตนเองได้ไม่ชัดและรับผิดชอบอารมณ์ตนเองได้ไม่ดีพอ นำตรรกะนั้นไปเป็นข้ออ้างในการซื้อ สะสมของที่อยากได้ของตนเอง
ความรู้สึกผิด ทั้งสองประเด็นที่เกิดขึ้น ไม่ว่า จากที่น้องแอ๊นท์เองมารู้ในภายหลังว่าผลิตภัณท์จากสัตว์ในสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมไม่ได้มาจากของเหลือใช้จากอุตสาหกรรมอาหาร และ ตรรกะที่น้องแอ๊นท์ได้สร้างความรู้ไว้ ที่กลายไปเป็นข้ออ้างในบางคน หลายคน
และ มีช่วงเวลาหนึ่งที่ทุกคนที่ใช้ชุมชนแห่งนี้ ติดการใช้ชุมชนแห่งนี้ กันเยอะมากจนมีกระทู้พูดคุยกันให้รู้ประหนึ่งว่า “ติดจนไม่สามารถให้นมลูกได้” ยิ่งทำให้น้องแอ๊นท์รู้สึกผิด เศร้า เสียใจกับการสร้างชุมชนแห่งนี้ ขึ้นมาแม้ว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจจะเกิดวงจรเศรษฐกิจ ขึ้นภายในชาติและชะลอเงินตราที่จะออกไปเพราะต้องการสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมใหม่เท่านั้น ในการบริโภค มากมาย เกิดการสร้างงานขึ้นอีกหลากหลาย งานหลายรูปแบบที่เป็นกุศลต่อความเป็นอยู่ เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นอีกหลายชีวิตก็ตาม
อานิสงค์ ดังกล่าวนั้น ไม่เพียงพอต่อทุกข์ที่เกิดขึ้น ที่น้องแอ๊นท์รู้สึกว่า เป็นความรับผิดชอบ ของน้องแอ๊นท์ ซึ่งทัศนคตินี้ ตรงกันข้ามกับผม ที่เชื่อว่า มนุษย์ทุกคนควรคิดและตัดสินใจได้ด้วยตนเอง ดังนั้น หากผลลัพธ์เกิดขึ้น จากการตัดสินใจของเขาเหล่านั้นเอง เขาควรรับผิดชอบ เอง ซึ่งสำหรับน้องแอ๊นท์ น้องแอ๊นท์ไม่ได้ ใช้ กรอบคิดนี้ ในการรับผิดชอบ การตัดสินใจ และดำเนินชีวิต น้องแอ๊นท์เชื่อว่า หากเราเป็นเหตุแห่งความไม่รู้นั้น ผลกระทบที่เกิดจากความไม่รู้นั้น เราหนี ความรับผิดชอบ ไม่ได้ น้องแอ๊นท์จึง อยากเลิกทำชุมชน siambrandname ในห้วงเวลาดังกล่าวที่เกือบ 20 ปีนั้น
แต่น้องแอ๊นท์ได้ประเมินว่าหากเลิกทำในช่วงเวลานั้น ก็จะมีรายอื่นทำขึ้นมา อีกหลายรายและการโฆษณาชวนเชื่อ ให้ใช้กันมากขึ้น ไม่ได้มีการให้ความรู้เพื่อควบคุม ต้องมากกว่าชุมชนแห่งนี้ แน่ๆ น้องแอ๊นท์จึงตัดสินใจ ยังรักษาชุมชนแห่งนี้ไว้ เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว และ ไม่ใช้ชุมชนแห่งนี้หารายได้ใดใด
การคงอยู่ของชุมชนแห่งนี้ จึงเกิดขึ้นจากความเสียสละ อย่างสูงยิ่ง ของสมาชิกชุมชน ที่เชื่อและรับผิดชอบในทุกข์ ที่ไม่อยากให้เกิดการหลอกลวงฉ้อโกง ช่วยกันสร้างขึ้นมา ส่งผลให้เกิดวงจรเศรษฐกิจของประเทศชาติและชะลอการลุ่มหลงอย่างไม่มีเหตุผลได้ ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
ซึ่งน้องแอ๊นท์จำทุกคนที่ร่วมเสียสละช่วยเหลือสมาชิกคนอื่นๆ ในชุมชนได้ อยากขอบคุณทุกคนอีกครั้ง
แต่ผมเองไม่สามารถจำใครเหล่านั้นได้หมดทุกคน จึงไม่สามารถเอยชื่อเพื่อนสมาชิกที่เสียสละช่วยกันสร้างชุมชนแห่งนี้ขึ้นมา ขอโทษและขอบคุณทุกคนที่เสียสละอีกครั้ง รวมถึงตัวตนจิตวิญญาณ ของชุมชนแห่งนี้ Siambrnadname ที่เสียสละมาตลอดเวลาเกือบ 20 ปี
เหตุผลในช่วงเวลาเหล่านั้น ทำให้น้องแอ๊นท์นอกจากเลิกใช้ สินค้าแฟชั่นแบรนดร์เนมแล้ว น้องแอ๊นท์เลิกเข้ามาเกี่ยวข้องกับชุมชนแห่งนี้ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มตั้งชุมชน สำเร็จปี พศ. 2548 จนถึงช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต น้องแอ๊นท์รู้สึกทุกข์ ผิด ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นหากตนเองไม่ได้ มาบอกความจริงในการตัดสินใจ ของตนเอง ต่อ ชุมชนแห่งนี้ ที่แบกรับภาระความรับผิดชอบต่อความไม่รู้ในอดีตของน้องแอ๊นท์ไว้
หลังจากน้องแอ๊นท์คลอดลูกคนที่สองได้สามเดือน น้องแอ๊นท์เริ่มมีอาการของโรค ME/CFS อีกครั้งและ ในครั้งนี้มีอาการหนักกว่าทุกครั้ง จนไม่สามารถเรียบเรียงข้อมูลในสมองได้ตามปกติให้สามารถเขียนการบอกการตัดสินใจของตนเองได้ เพราะทุกครั้งที่คิด ระบบข้อมูลในร่างกายจะขัดแย้งกัน จนสั่งการให้ ทำงานตามปกติไม่ได้ ได้
แต่สั่งเสียบอกให้ผมซึ่งเป็นสามี ว่า มีงานนี้ อีกหนึ่งงานที่แอ๊นท์อยากให้พี่ปอรับผิดชอบให้
บอกการตัดสินใจตามความจริงของน้องแอ๊นท์ต่อชุมชน ต่อสมาชิกชุมชน siambrandname แห่งนี้ กระทู้นี้พี่ปอจึงเขียนขึ้นมา
ขอโทษที่กว่าพี่ปอจะทำงานนี้ตามที่น้องแอ๊นท์ได้บอกไว้ ใช้เวลาหลังจากน้องแอ๊นท์เสียเกือบ 2 ปี
ขอให้ความตั้งใจบอกความจริงของน้องแอ๊นท์สำเร็จและเกิดกุศล อานิสงค์เพียงพอต่อการทำงานในโลกฝั่งโน้นของน้องแอ๊นท์ ในการรักษารักนิรันดร์ ของน้องแอ๊นท์สำเร็จลุล่วงปลอดภัยและได้กลับมาอยู่เป็นคู่รักของพี่ปอ เป็นครอบครัวเดียวกันกับพี่ปอได้ตลอดทุกๆชาติไป ตามที่น้องแอ๊นท์สั่งเสียไว้ เลือกให้พี่ปอเป็นหัวหน้าครอบครัวที่น้องแอ๊นท์รักตลอดไปและพี่ปอต้องการเช่นเดียวกันกับคำสั่งเสียนั่นของน้องแอ๊นท์ ไม่เคยมองว่า เป็นคำสั่งการ ที่พี่ปอไม่อยากได้ และไม่เคยมองว่าเป็นภาระที่ไม่อยากรับผิดชอบเลย การได้เป็นคู่รักของน้องแอ๊นท์ แม้ในวันที่กายร่างน้องแอ๊นท์ จากไปแล้วยังคงเป็นความสุขไปชั่วนิรันดร์ของพี่ปอ
น้องแอ๊นท์ภรรยาของผมเอง จึงได้เปิดเว็บเพื่อขายสินค้าที่ใช้แล้วของตนเองขึ้นมาและได้เปิดเว็บบอร์ดขึ้นในเว็บขายสินค้าของตนนั้น ชื่อว่า mylvshop ขึ้นมา
และได้พบว่าในการซื้อขายสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมสมัยนั้น มีคนโดนโกงจากการซื้อขายสินค้าของปลอมกันเยอะมาก น้องแอ๊นท์จึงได้คิดขึ้นว่า ไม่อยากเห็นคนเสียใจจากการซื้อขายสินค้า ที่เกิดจากความชอบมากมายขนาดนั้น ความเสียใจจากการอยากได้ของที่ตนเองชอบตนเองรัก เก็บเงินซื้อแต่โดนหลอกให้ซื้อของปลอมนั้น การโดนหลอกลวงเช่นนั้น เจ็บปวดทรมาน
น้องแอ๊นท์ เข้าใจความทุกข์ จากการผิดหวัง เช่นนั้นจึง ตัดสินใจ เขียนวิธีดูสินค้า จริงปลอมในรุ่นที่ตนชำนาญ ลงในเว็บบอร์ดร้านค้าของตน ในขณะที่น้องแอ๊นท์ยังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาเอกที่ประเทศอังกฤษ ในปี พ.ศ. 2548 นั้น
และ น้องแอ๊นท์ยอมรับในข้อจำกัดของตนเองว่า ไม่สามารถให้ความรู้ในสินค้าทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น ทุกชนิดไหว จึงเลือกหนทางที่จะทำงานให้เกิดชุมชน ของคนที่อยากแบ่งปันความรู้เพราะเห็นในทุกข์เหล่านั้น ที่โดนหลอกให้ซื้อของที่ตน รัก หลงใหล ชอบ เป็นของปลอม และไม่อยากเห็นคนอื่นต้องทุกข์เช่นนั้น มาแบ่งปันความรู้และรับผิดชอบในการแบ่งปั่นช่วยเหลือไม่ต้องให้คนที่ชอบในสิ่งที่เหมือนๆกันในยุคสมัยนั้นต้องทุกข์ จากการโดนฉ้อโกงหรือมิจฉาชีพขายของปลอม ดังอุดมคติเช่นนั้น จึงเกิดห้องซื้อขายที่พยายามให้มีการช่วยตรวจสอบจนเป็นที่มาให้ น้องแอ๊นท์ตัดสินใจเปิดเว็บไซด์ชุมชน siambrandname ขึ้นมา
และ เปิดห้องตามอุดมคติเช่นนั้น ที่น้องแอ๊นท์เลือกรับผิดชอบเช่นห้อง Catch fake ที่ใช้ตรวจสอบสินค้าที่ซื้อขาย หรือห้องที่ให้ คนที่มีความรู้พร้อมแบ่งปันมาตั้งกระทู้สอนวิธีดูสินค้ายี่ห้อ รุ่นต่างๆขึ้นมา การเติบโตของชุมชนแห่งนี้ เติบโตอย่างรวดเร็วสูงมากในช่วงเวลานั้น จนมีการประเมินมูลค่าหลายล้านดอลล่าโดยเว็บไซด์ต่างประเทศและมีการติดต่อจากแบรนด์เนมชั้นนำเพื่อขอโฆษณา ตลอดจนมีการติดต่อเพื่อขอซื้อเว็บไซด์ น้องแอ๊นท์ซึ่งไม่ได้ มีเจตนาที่จะหารายได้ จากเว็บไซด์แห่งนี้
และจุดเริ่มต้นมาจากชวนทุกคนที่เห็นในทุกข์เหล่านั้นมาแบ่งปัน น้องแอ๊นท์จึงเปลี่ยนแปลงอุดมคตินั้นของตนเองเพื่อประโยชน์ในทางรายได้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้น น้องแอ๊นท์ก็ผิดต่อการรับผิดชอบต่อการไม่หลอกลวง
น้องแอ๊นท์ไม่อยากผิดศิลโกหก หลอกลวงเช่นเดียวกันกับ เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ทึ่เป็นเหตุให้ต้องเปิดชุมชนแห่งนี้ขึ้นมา บาปกรรมเดียวกันนั้น น้องแอ๊นท์ไม่สามารถทำได้ จึงไม่ได้หารายได้ใดใด จากความชื่นชอบ ชื่นชมในสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม การทำชุมชนแห่งนี้ จึงไม่ได้ มีรายได้ ต้นทุนที่เกิดขึ้นจึงเกิดจากการช่วยเหลือกัน และพยายามไม่ให้มีค่าใช้จ่ายที่น้องแอ๊นท์ต้องรับผิดชอบ เพื่อให้สามารถคงรักษาอุดมคติดังเดิมของชุมชนไว้ว่า ไม่ได้คิดจะเอามาหารายได้ จากการแบ่งปันของคนที่เห็นในทุกข์เดียวกัน แม้แต่การออกแบบโลโก้ สัญลักษณ์ของชุมชนนั้น ก็ได้ รับการช่วยเหลือในการออกแบบจากน้องชายของน้องแอ๊นท์เอง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด
ส่วนสำคัญต้นทุนการแบ่งปันความรู้ ได้จากความช่วยเหลือของสมาชิกในชุมชม เกิดจาก คนที่เห็นในทุกข์แบบเดียวกันและไม่อยากให้เกิดทุกข์นั้น แก่ทั้งตนและคนอื่นได้มาแบ่งปันกัน ส่วนค่าใช้จ่ายในการดูแลระบบคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตที่มีรายจ่ายตั้งต้นและต่อเดือนสูงในเวลานั้น และต่อมา ได้จากการขอรับโอกาสของรุ่นน้องที่ร่ำเรียนมาทางวิศวกรรม เพื่อขอศึกษาการเกิดขึ้นตามกฏธรรมชาติของชุมชน
ในช่วงระยะเวลาที่เริ่มต้นให้ความรู้ในชุมชนนั้น น้องแอ๊นท์ไม่ได้ ประเมินว่า กุศลและอานิสงค์ ของการทำชุมชนนี้ จะส่งผลกระทบขนาดไหน ซึ่งในแง่ผลประโยชน์นั้น ชุมชนแห่งนี้ ได้ก่อให้เกิดตลาดซื้อขายสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมขึ้นมาและต่อมาขนาดตลาดใหญ่ขึ้นพอที่จะมีการลงทุนของบริษัทข้ามชาติในวงจรเศรษฐกิจดังกล่าวมาดำเนินกิจการในประเทศไทย และร้านค้า แม่ค้าแลกเปลี่ยนซื้อขาย ทั้งขนาด ใหญ่ กลาง เล็ก ที่เกิดขึ้น ของคนไทยเอง ก็เกิดขึ้นมากมาย หลายร้าน
จนมาถึงปัจจุบันนี้ หรือการเข้ามาของสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมอีกหลายแบรนด์และตลอดถึงการเกิดขึ้นของสินค้าแฟชั่นแบรนด์ไทย น้องแอ๊นท์ยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ก่อให้เกิดวงจรเศรษฐกิจ ขึ้นได้จริง แม้ว่า ในเวลานั้น หลังจากตั้งชุมชน Siambrandname ไปไม่กี่ปี น้องแอ๊นท์เริ่มหาข้อมูลที่มาของสินค้ามากขึ้น จึงเจอว่าสินค้าเหล่านี้ ไม่ได้ใช้ by product จากอุตสาหกรรมอาหารตามที่ตนเข้าใจมาในวัยเด็ก แต่เป็นการเลี้ยงขึ้นมาใหม่เพื่อนำชิ้นส่วนร่างกายของน้องสัตว์ สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นมาทำสินค้า ซึ่งขัดกับตัวรู้สึกที่น้องแอ๊นท์เห็นยอมรับในคุณค่าชีวิตเหล่านั้นมากกว่าจะโดนตั้งใจเลี้ยงมาเพื่อฆ่าทำสินค้า
ในช่วงเวลาดังกล่าว น้องแอ๊นท์ได้พยายามใช้ชีวิตในวิถี วีแก้น มาหลายครั้งแต่โครงสร้างร่างกายไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิตเช่นนั้น จากผลกระทบของโรค ME/CFS ที่น้องแอ๊นท์เป็นมาอย่างยาวนาน และ เป็นเหตุให้ชีวิตต้องเสียไป ตามรายละเอียดในกระทู้นี้
“ร่วมแสดงความอาลัย ต่อ คุณแอ๊นท์ ผู้ก่อตั้ง Siambrandname.com https://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=3910615 ”
ความรู้สึกผิดของน้องแอ๊นท์ที่มารู้ที่หลังว่า อุตสาหกรรมสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม ไม่ได้ใช้ผลิตภัณท์จากสัตว์ เฉพาะที่เป็น by product จากอุตสาหกรรมอาหาร
ทำให้น้องแอ๊นท์ตัดสินใจเลิกใช้ผลิตภัณท์จากสัตว์ทุกชนิด และขายสินค้าแฟชั่นที่เคยมีไว้ของตนเองออกไป แม้ว่า น้องแอ๊นท์เอง จะเป็นคนให้ตรรกะไว้ ในสมัยตั้งชุมชนใหม่ๆ ตามข้อเท็จจริงของตนเอง ที่ขณะนั้น ที่กำลังศึกษาระดับปริญญาเอกที่ประเทศอังกฤษ ว่า “สินค้าแฟชั่นสำหรับแอ๊นท์คือการลงทุน” เพราะน้องแอ๊นท์ใช้สินค้าแฟชั่น เป็นการลงทุน ที่ได้กำไรสูงกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าหรือนาฬิกา แม้ว่า เหตุผลดังกล่าว เป็น ตรรกะที่น้องแอ๊นท์ใช้สำหรับตนเองจริงๆ ในการตัดสินใจ ไม่ให้ ตนเองลุ่มหลง ไปกับกระแสแฟชั่นของสินค้าจนหาสาระที่แท้จริง ในการตัดสินใจของตนเองไม่ได้นอกจากความพึงพอใจ ทางอารมณ์ก็ตาม
แต่เหตุผลตรรกะนั้นที่จริง สำหรับน้องแอ๊นท์ น้องแอ๊นท์พบว่าในภายหลังกลับเป็นข้ออ้างในบางคน และในเด็กๆอีกหลายคนที่ประเมินอารมณ์ตนเองได้ไม่ชัดและรับผิดชอบอารมณ์ตนเองได้ไม่ดีพอ นำตรรกะนั้นไปเป็นข้ออ้างในการซื้อ สะสมของที่อยากได้ของตนเอง
ความรู้สึกผิด ทั้งสองประเด็นที่เกิดขึ้น ไม่ว่า จากที่น้องแอ๊นท์เองมารู้ในภายหลังว่าผลิตภัณท์จากสัตว์ในสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมไม่ได้มาจากของเหลือใช้จากอุตสาหกรรมอาหาร และ ตรรกะที่น้องแอ๊นท์ได้สร้างความรู้ไว้ ที่กลายไปเป็นข้ออ้างในบางคน หลายคน
และ มีช่วงเวลาหนึ่งที่ทุกคนที่ใช้ชุมชนแห่งนี้ ติดการใช้ชุมชนแห่งนี้ กันเยอะมากจนมีกระทู้พูดคุยกันให้รู้ประหนึ่งว่า “ติดจนไม่สามารถให้นมลูกได้” ยิ่งทำให้น้องแอ๊นท์รู้สึกผิด เศร้า เสียใจกับการสร้างชุมชนแห่งนี้ ขึ้นมาแม้ว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจจะเกิดวงจรเศรษฐกิจ ขึ้นภายในชาติและชะลอเงินตราที่จะออกไปเพราะต้องการสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมใหม่เท่านั้น ในการบริโภค มากมาย เกิดการสร้างงานขึ้นอีกหลากหลาย งานหลายรูปแบบที่เป็นกุศลต่อความเป็นอยู่ เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นอีกหลายชีวิตก็ตาม
อานิสงค์ ดังกล่าวนั้น ไม่เพียงพอต่อทุกข์ที่เกิดขึ้น ที่น้องแอ๊นท์รู้สึกว่า เป็นความรับผิดชอบ ของน้องแอ๊นท์ ซึ่งทัศนคตินี้ ตรงกันข้ามกับผม ที่เชื่อว่า มนุษย์ทุกคนควรคิดและตัดสินใจได้ด้วยตนเอง ดังนั้น หากผลลัพธ์เกิดขึ้น จากการตัดสินใจของเขาเหล่านั้นเอง เขาควรรับผิดชอบ เอง ซึ่งสำหรับน้องแอ๊นท์ น้องแอ๊นท์ไม่ได้ ใช้ กรอบคิดนี้ ในการรับผิดชอบ การตัดสินใจ และดำเนินชีวิต น้องแอ๊นท์เชื่อว่า หากเราเป็นเหตุแห่งความไม่รู้นั้น ผลกระทบที่เกิดจากความไม่รู้นั้น เราหนี ความรับผิดชอบ ไม่ได้ น้องแอ๊นท์จึง อยากเลิกทำชุมชน siambrandname ในห้วงเวลาดังกล่าวที่เกือบ 20 ปีนั้น
แต่น้องแอ๊นท์ได้ประเมินว่าหากเลิกทำในช่วงเวลานั้น ก็จะมีรายอื่นทำขึ้นมา อีกหลายรายและการโฆษณาชวนเชื่อ ให้ใช้กันมากขึ้น ไม่ได้มีการให้ความรู้เพื่อควบคุม ต้องมากกว่าชุมชนแห่งนี้ แน่ๆ น้องแอ๊นท์จึงตัดสินใจ ยังรักษาชุมชนแห่งนี้ไว้ เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว และ ไม่ใช้ชุมชนแห่งนี้หารายได้ใดใด
การคงอยู่ของชุมชนแห่งนี้ จึงเกิดขึ้นจากความเสียสละ อย่างสูงยิ่ง ของสมาชิกชุมชน ที่เชื่อและรับผิดชอบในทุกข์ ที่ไม่อยากให้เกิดการหลอกลวงฉ้อโกง ช่วยกันสร้างขึ้นมา ส่งผลให้เกิดวงจรเศรษฐกิจของประเทศชาติและชะลอการลุ่มหลงอย่างไม่มีเหตุผลได้ ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
ซึ่งน้องแอ๊นท์จำทุกคนที่ร่วมเสียสละช่วยเหลือสมาชิกคนอื่นๆ ในชุมชนได้ อยากขอบคุณทุกคนอีกครั้ง
แต่ผมเองไม่สามารถจำใครเหล่านั้นได้หมดทุกคน จึงไม่สามารถเอยชื่อเพื่อนสมาชิกที่เสียสละช่วยกันสร้างชุมชนแห่งนี้ขึ้นมา ขอโทษและขอบคุณทุกคนที่เสียสละอีกครั้ง รวมถึงตัวตนจิตวิญญาณ ของชุมชนแห่งนี้ Siambrnadname ที่เสียสละมาตลอดเวลาเกือบ 20 ปี
เหตุผลในช่วงเวลาเหล่านั้น ทำให้น้องแอ๊นท์นอกจากเลิกใช้ สินค้าแฟชั่นแบรนดร์เนมแล้ว น้องแอ๊นท์เลิกเข้ามาเกี่ยวข้องกับชุมชนแห่งนี้ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มตั้งชุมชน สำเร็จปี พศ. 2548 จนถึงช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต น้องแอ๊นท์รู้สึกทุกข์ ผิด ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นหากตนเองไม่ได้ มาบอกความจริงในการตัดสินใจ ของตนเอง ต่อ ชุมชนแห่งนี้ ที่แบกรับภาระความรับผิดชอบต่อความไม่รู้ในอดีตของน้องแอ๊นท์ไว้
หลังจากน้องแอ๊นท์คลอดลูกคนที่สองได้สามเดือน น้องแอ๊นท์เริ่มมีอาการของโรค ME/CFS อีกครั้งและ ในครั้งนี้มีอาการหนักกว่าทุกครั้ง จนไม่สามารถเรียบเรียงข้อมูลในสมองได้ตามปกติให้สามารถเขียนการบอกการตัดสินใจของตนเองได้ เพราะทุกครั้งที่คิด ระบบข้อมูลในร่างกายจะขัดแย้งกัน จนสั่งการให้ ทำงานตามปกติไม่ได้ ได้
แต่สั่งเสียบอกให้ผมซึ่งเป็นสามี ว่า มีงานนี้ อีกหนึ่งงานที่แอ๊นท์อยากให้พี่ปอรับผิดชอบให้
บอกการตัดสินใจตามความจริงของน้องแอ๊นท์ต่อชุมชน ต่อสมาชิกชุมชน siambrandname แห่งนี้ กระทู้นี้พี่ปอจึงเขียนขึ้นมา
ขอโทษที่กว่าพี่ปอจะทำงานนี้ตามที่น้องแอ๊นท์ได้บอกไว้ ใช้เวลาหลังจากน้องแอ๊นท์เสียเกือบ 2 ปี
ขอให้ความตั้งใจบอกความจริงของน้องแอ๊นท์สำเร็จและเกิดกุศล อานิสงค์เพียงพอต่อการทำงานในโลกฝั่งโน้นของน้องแอ๊นท์ ในการรักษารักนิรันดร์ ของน้องแอ๊นท์สำเร็จลุล่วงปลอดภัยและได้กลับมาอยู่เป็นคู่รักของพี่ปอ เป็นครอบครัวเดียวกันกับพี่ปอได้ตลอดทุกๆชาติไป ตามที่น้องแอ๊นท์สั่งเสียไว้ เลือกให้พี่ปอเป็นหัวหน้าครอบครัวที่น้องแอ๊นท์รักตลอดไปและพี่ปอต้องการเช่นเดียวกันกับคำสั่งเสียนั่นของน้องแอ๊นท์ ไม่เคยมองว่า เป็นคำสั่งการ ที่พี่ปอไม่อยากได้ และไม่เคยมองว่าเป็นภาระที่ไม่อยากรับผิดชอบเลย การได้เป็นคู่รักของน้องแอ๊นท์ แม้ในวันที่กายร่างน้องแอ๊นท์ จากไปแล้วยังคงเป็นความสุขไปชั่วนิรันดร์ของพี่ปอ